ช่วงนี้ข่าวคราวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับโลกฟุตบอลยังไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่ ด้วยเพิ่งผ่านศึกฟุตบอลโลก 2018 มาหมาดๆ บวกกับเหล่าบรรดานักเตะชั้นนำที่เล่นเข้าถึงรอบลึก ๆ ยังอยู่ในช่วงเวลาของการพักร้อน ขณะที่โปรแกรมอุ่นเครื่องปรีซีซั่นมันก็ไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น วันนี้เลยขอพูดถึงดาวเตะคนหนึ่งที่ถูกคาดหวังว่าในฟุตบอลโลกหนนี้จะเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ทำให้เขาเจิดจรัสแต่แล้วกลับกลายเป็นดาวร่วงที่โดนก่นด่ากันทั้งโลก ไม่ใช่ใครที่ไหนเขาคือ เนย์มาร์ นั่นเอง
สาเหตุหลักที่เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักไม่ใช่ฟอร์มการเล่นที่ไม่ค่อยสู้ดี เพราะถึงกระนั้นเขาก็ยังพอฝากความหวังได้ในยามคับขัน แต่สิ่งที่ทำให้คนบราซิลรู้สึกว่าอับอายอย่างมากคืออาการที่เจ้าตัวชอบลงไปนอนดิ้นทุรนทุรายปานโดนฟันจากมีสปาร์ตา ทั้ง ๆ ที่บางจังหวะมันแค่สะกิดเบายิ่งกว่ามดกัดเสียอีก ด้วยอาการดังกล่าวทำให้ทั้งแฟนบอลรวมถึงบรรดานักเตะด้วยกันเองต่างรู้สึกยี้กับพฤติกรรมประเภทโอเวอร์แอ็คติ้งของดาวเตะเจ้าของค่าตัวสถิติโลกรายนี้อย่างมาก ยิ่งมองย้อนกลับไปถึงอดีตหัวหอกระดับตำนานของทัพแซมบ้าและของโลกอย่าง “โล้นทองคำ” โรนัลโด้ ยิ่งทำให้รู้สึกว่าอะไรหลา ยๆ อย่างของดาวเตะจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยังเทียบรัศมี “เดอะ โล้น” ไม่ได้สักนิด
ทั้งอาการงอแงต้องการย้ายออกจากบาร์เซโลน่าที่หลายฝ่ายเชื่อว่านั่นเพราะเขาถูกบดบังรัศมีโดยลีโอเนล เมสซี กระนั้นก็มีนักวิจารณ์จำนวนมากระบุว่าหากเขาเก่งจริงเขาควรต้องข้ามเงาเมสซี่ไปให้ได้ พอตอนแรก ๆ ย้ายมาอยู่กับยักษ์ใหญ่แห่งศึกลีก เอิง ฝรั่งเศส ก็ดูทีท่าว่าจะไปได้สวยจนถูกยกให้เป็นตัวเต็งในการพาบราซิลคว้าแชมป์โลกหลังครั้งสุดท้ายพวกเขาทำได้ตั้งแต่ปี 2002 แต่แล้วมันหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เมื่อบวกกับการแสดงออกระดับรางวัลออสการ์อย่างนี้ยิ่งทำให้หลายคนคิดถึงดาวยิงอย่างโรนัลโด้
คนที่เล่นตามหน้าที่ของตัวเอง ใช้พรสวรรค์อันติดตัวมาตั้งแต่เกิดแสดงออกบนฟลอร์หญ้าด้วยลีลาอันแพรวพราวหาตัวจับยาก ช่วงเวลาพีค ๆ ของเขากองหลังทุกตัวบนโลกใบนี้ต้องยอมสยบแทบเท้าเขาเลยทีเดียว แต่กับเนย์มาร์ยังไม่ได้แสดงออกกับสิ่งที่โรนัลโด้เคยทำ เข้าใจว่าเรื่องทักษะกับพรสวรรค์ไม่ได้ต่างกันมากแต่เรื่องที่ยังห่างไกลลิบแบบหากันไม่เจอคือ ทัศนะคติ นี่เป็นสิ่งที่ เนย์มาร์ ต้องแก้ไขหากเขาต้องการก้าวเป็นนักเตะที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลก