ร็อบเบน อาจจะกลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้ง หลังเลิกเล่นไม่ถึงปี

อาร์เยน ร็อบเบน อดีตปีกชาวดัตช์ ออกมากล่าวยอมรับว่า ตัวเขากำลังพิจารณาในการกลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้ง แม้จะประกาศแขวนสตั๊ดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากหมดสัญญากับบาเยิร์น มิวนิค เมื่อซัมเมอร์ล่าสุด อดีตนักเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เคยลงเล่นให้กับสโมสรโกรนิงเก้น, พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น, เชลซี, เรอัล มาดริด และบาเยิร์น โดยคว้าแชมป์ลีกได้ทั้งในประเทศเนเธอร์แลนด์, อังกฤษ และสเปน ก่อนที่จะขึ้นสู่จุดสูงสุดเมื่อตอนที่ค้าแข้งในประเทศเยอรมนี

แม้ร็อบเบน จะเป็นนักเตะที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตลอด แต่นักเตะก็ลงเล่นให้กับทีมยักษ์ใหญ่ของเยอรมันเกือบ 1 ทศวรรษ ผ่านการคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 8 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย ร็อบเบน เป็นข่าวอย่างหนักกับการย้ายกลับมาค้าแข้งในบ้านเกิดฮอลแลนด์ ทั้งโกรนิงเก้น และพีเอสวี หลังจากหมดสัญญากับบาเยิร์น ก่อนที่จะแขวนสตั๊ด แต่สุดท้าย การย้ายทีมก็ไม่ได้เกิดขึ้น ทำให้ตัดสินใจประกาศยุติการเล่นฟุตบอลอาชีพ

ร็อบเบน ออกมากล่าวยอมรับเป็นครั้งแรกถึงโอกาสในการกลับมาวาดรวดลายในการเล่นฟุตบอลอีกครั้ง แม้จะอายุ 36 ปีแล้วในตอนนี้ ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโควิด-19 และทำให้เกมการแข่งขันถูกประกาศเลื่อนเกมการแข่งขันออกไป “ในตอนแรก ผมไม่ได้มีความคิดถึงฟุตบอลเลย แต่หลังจากนั้น มันก็มีความรู้สึกจี๊ดๆ ออกมาเหมือนกัน และผมก็มีความคิดเหมือนกัน ว่าอาจจะกลับมาเล่นอีกสักหน่อยก็ได้ กับช่วงเวลานี้ ผมยังคิดถึงมันอยู่ กับไวรัสนี้ มันเป็นช่วงเวลาที่แปลกมากๆ สำหรับทุกคน และเมื่อฟุตบอลมันกลับมาในตอนนี้ แต่บางที มันอาจจะทำให้ผมได้มาอยู่ที่นี่อีกครั้ง ผมต้องการอยู่จุดนี้ไปตลอด” ร็อบเบน กล่าวกับช่องพอดคาสต์ของบาเยิร์น

ร็อบเบน ยืนยันถึงการเป็นแฟนบอลของเสือใต้ นับตั้งแต่ออกมาจากสโมสร แม้ว่าตัวเขาจะไม่ได้ลงเล่นให้กับทีม “ผมคิดถึงเกมการแข่งขันมากๆ แต่ผมก็ยุ่งมากเหมือนกัน ผมไม่เคยวางแผนอะไรเลย สำหรับเรื่องส่วนตัวของผม เมื่อคุณแขวนสตั๊ด ไม่มีใครรอคุณอยู่แล้ว แต่บางครั้งคุณก็ต้องการสิ่งที่สร้างความตื่นเต้นให้กับชีวิตเหมือนกัน รวมถึงลูกๆ ของผมด้วย และยังกล่าวถึงการทำหน้าที่โค้ชให้กับลูกๆ ของเขา กับการฝึกซ้อมลูกบอล แต่เจ้าตัวก็ยังยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการตัดสินใจใดๆ ทังนั้นในเวลานี้ ผมไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษในใจ” ทั้งนี้ร็อบเบน ยังเป็นหนึ่งในนักเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ กับการคว้ารองแชมป์ฟุตบอลโลก ในปี 2010 หลังจากแพ้ให้กับทีมชาติสเปน ไปด้วยสกอร์ 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศ